สำหรับผู้ที่เริ่มสนใจลงทุนในหุ้น ไม่ว่าจะเทรดหุ้นรายวัน, การซื้อหุ้นเพื่อรับเงินปันผล หรือ การออมหุ้น DCA สิ่งที่จะต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรกสุด คงหนีไม่พ้นการเลือก “โบรกเกอร์” ที่จะเปิดพอร์ตด้วย เพราะพวกเขาคือคนกลางที่คอยดูแลจัดการการ ซื้อ-ขาย หลักทรัพย์แทนเรา หรือพูดง่ายๆ คือเป็นคนดูแล “เงินและสินทรัพย์” ทั้งหมดที่อยู่ในพอร์ตเรานั่นเอง
แล้วจะเลือก “โบรกเกอร์” ยังไงให้ดีและเหมาะสมกับตัวเรา? ในเมื่อในตลาดมีโบรกเกอร์ที่พร้อมให้บริการเรากว่า 30 บริษัท! วันนี้เราจึงมี 5 ข้อ ที่ควรพิจารณาก่อนการเลือกโบรกเกอร์ เพื่อเป็นตัวช่วยให้คุณเลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะกับตัวเอง มีอะไรบ้างมาดูกัน
1. เป็นโบรกเกอร์ที่ มีความน่าเชื่อถือ มีใบอนุญาตถูกต้อง
คงไม่มีใครอยากเอาเงินของตั
ดังนั้นเหตุผลด้านความปลอดภัยจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่คุณต้องพิจารณาเป็นอันดับแ
2. ระบบการทำธุรกรรมปลอดภัย ไม่ยุ่งยาก
เหตุผลที่โบรกเกอร์จะถือเงิ
หากโบรกเกอร์ไหน การฝากและถอนเงินต้องมีกระบ
3. ค่าธรรมเนียม ค่าคอมมิชชั่น สมเหตุสมผล
การเปิดพอร์ตกับโบรกเกอร์มา
ดังนั้น เพื่อการประหยัดต้นทุนของกา
4. ผู้ดูแลนักลงทุน รู้จริง ไว้ใจได้
โบรกเกอร์ก็ไม่ต่างกับผู้ให้บริการต่างๆ ปัญหาในการซื้อ-ขายหลักทรัพ
ก็ควรเลือกโบรกเกอร์ที่มีผู้ดูแลนักลงทุนที่สามารถติดต่อได้รวดเร็ว, ให้คำแนะนำการซื้อขายได้เหม
ถือเป็น “บริการหลังการขาย” ที่เราทุกคนอยากเจอ โดยเฉพาะเมื่อมาร์เก็ตติ้ง ที่มีความรู้ ข้อมูลลึก จริงใจและใส่ใจกับผลประโยชน
5. บริการเสริม และสิทธิประโยชน์อื่นๆ คุ้มค่า
สำหรับหลายๆคน คุณสมบัติข้อนี้อาจเป็นสิ่ง
ไม่ว่าจะเป็นบทวิเคราะห์, รายงานวิจัยต่างๆ ,บริการอัพเดทข้อมูลข่าวสาร
การเลือกบริการเสริมเหล่านี้อาจเป็นตัวช่วยอย่างดี ที่ช่วยให้คุณจัดการการลงทุ