สังคมไร้เงินสด (Cashless Society) อนาคตอันใกล้ของสังคมไทย

หากเราได้ไปเที่ยวหรือใช้ชีวิตในประเทศที่มีการพัฒนาด้านเทคโนโลยีสูงๆ จะรู้สึกได้ว่าเค้าใช้เงินสดกันน้อยมาก หรือพกกันไปแค่โทรศัพท์มือถือก็สามารถจ่ายตังค์ ซื้อของ เข้าซูเปอร์มาร์เก็ต ทานข้าว ซื้อน้ำปั่น ขึ้นรถเมล์ ลงรถไฟใต้ดิน ซื้อเสื้อผ้า และอีกมากมายหลายอย่าง ทุกๆ อย่างที่ได้กล่าวมา ล้วนเป็นต้นแบบของสังคมไร้เงินสด หรือ Cashless Society และจะยิ่งเข้าใกล้เรามากขึ้นไปทุกขณะอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ซุนวูกล่าวไว้ว่า “รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง” (เอ่อ..เกี่ยวไหมหว่า) แต่ก่อนเราจะเข้าสู่สังคมแบบนั้นในอีกไม่นาน เรามาลองทำความรู้จักกับข้อดี ข้อเสียของการไร้เงินสดกันดีกว่า

Cashless Society
Picture Credits:The Beijinger

ข้อดี

  • กระเป๋าเบา

    กระเป๋าตังค์ของคุณที่จะต้องพกธนบัตรเป็นปึกๆ ก็คงต้องเปลี่ยนแปลงแล้วหล่ะครับ เปลี่ยนมาเหลือบัตรใบเดียว หรือแค่พกมือถือไปก็เท่านั้นเอง ไม่เกะกะ หรือ ทำให้กางเกงสูทของคุณขึ้น fade ที่กระเป๋ากางเกงด้วยนะเออ

  • ไม่ยุ่งยาก

    จะไปไหนมาไหนก็ไม่ยุ่งยาก การชำระเงินทุกอย่างจะทำผ่านธุรกรรมที่เรามองไม่เห็น (แต่เราเช็คได้นะ อิอิ)

  • ซื้อของได้หลายช่องทาง

    ไม่ว่าจะเป็นซื้อของออนไลน์ จ่ายค่าโทรศัพท์ ซื้อตั๋วเครื่องบิน ทำได้ทุกอย่าง ชีวิตเราก็จะสะดวกสบายไปอีกขั้น อย่างเช่น สมัยนี้เราสามารถสั่งของจาก supermarket ได้แล้วจะมีคนมาส่งให้เราเลย โดยที่เราไม่ต้องไปออกแรงยกของจาก supermarket สบายสุดๆ

  • โปรโมชั่น และส่วนลด

    เราคงเห็นโปรโมชั่นจากหลายๆ ค่ายบัตรเครดิตที่พยายามจะเสนอโปรโมชั่นและส่วนลดต่างๆในการใช้บัตร นั่นก็เป็นข้อดีอย่างหนึ่ง ถ้าหากคุณเปิดใจใช้บัตรเครดิต หรือแม้กระทั่งคุณอยากจะซื้อเสื้อเชิ้ตซักตัว ทางร้านบางร้านก็มีส่วนลดสำหรับการช้อปออนไลน์

  • ปลอดภัย (จริงป่ะ)

    ปลอดภัยในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงว่าการใช้เครื่องมืออื่นๆ มาใช้จ่ายแทนเงินสดจะไม่มีความเสี่ยงนะฮะ แต่อย่างน้อยสังคมไร้เงินสดก็ช่วยให้คุณปลอดภัยจากการปล้น ชิง วิ่งราว กระเป๋าแบรนด์เนมที่ล่อตาโจร ของคุณผู้หญิงได้  (ยกเว้นโดนวิ่งราวโทรศัพท์มือถือหรือทำหายเอง อันนั้นก็ว่ากันไป)

Picture Credits : Nation Multimedia

ข้อเสีย

  • หนทางสู่มาม่า

    ถ้าหากคุณเผอเรอรูดปื้ดๆๆ โดยจำไม่ได้ว่าใช้อะไรบ้าง หรือไม่เบามือละก็ คำว่า มาม่าท้ายเดือน ก็คงไม่ไกลจากตัวคุณมากนัก เนื่องจากการซื้อสินค้าหรือบริการผ่านเครื่องมือต่างๆ โดยไม่ใช้ธนบัตรหรือเหรียญ มันจะทำให้คุณมีโอกาสใช้เงินจนเกินตัว ด้วยความสะดวกสบาย และบริบท “ใช้ก่อน จ่ายทีหลัง”

  • เสี่ยงต่ออาชญากรรมทางอินเตอร์เน็ต

    การที่คุณทำธุรกรรมทุกอย่างบนอินเตอร์เน็ตก็มีความเสี่ยงมีจะก่อให้เกิดอาชญากรรมได้ โดยเฉพาะการหลอกลวงในรูปแบบต่างๆ หรือการแฮ็กข้อมูลของเราบน Cloud ซึ่งทุกวันนี้ความซับซ้อนของสิ่งเหล่านี้ก็ทวีคูณขึ้นไปเรื่อยๆ ฟังดูแล้วน่ากลัวใช่ไหมครับ ไม่ต้องห่วงเลย ถ้าหากเรามีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับธุรกรรมทางอินเตอร์เน็ตพอสมควรนะฮะ

  • ค่าธรรมเนียม

    คนไทยคงจะคุ้นชินกับคำว่า จ่ายสดลด 10 จ่ายบัตรลด 5 กันอยู่แล้วนะครับ นั่นแหละฮะส่วนต่าง 5 เปอร์เซ็นต์คือค่าธรรมเนียมที่ไม่ว่าจะเป็นผู้ให้บริการบัตรเครดิต ธนาคาร หรือผู้เกี่ยวข้องต่างๆ ร่วมด้วยช่วยกันเก็บจากยอดซื้อของคุณเอง ซึ่งถ้าเป็นผมเอง ผมก็คงเดินออกจากร้านไปกดตังค์มาจ่ายอะครับ ถึงแม้จะอยากใช้บัตรเครดิตจ่ายเพื่อสะสมแต้มต่างๆ นานา ก็ตาม T T

Picture Credits: : Our Greater Destiny

ถึงแม้สังคมไร้เงินสดเข้ามาใกล้ชีวิตเรามากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากการพัฒนาเทคโนโลยีในด้านระบบชำระเงินและระบบออนไลน์ต่างๆ และความพยายามของรัฐบาลที่จะพัฒนาระบบต่างๆ แต่มันก็ยังมีบางกรณีที่เราจำเป็นต้องใช้เงินสดอยู่ เพื่อความสะดวกสบายและเหตุผลอื่นๆ เช่น

  • ขอทาน
  • การขอรับเงินบริจาคต่างที่สาธารณะต่างๆ
  • งาน part-time
  • การใช้จ่ายของเด็กนักเรียนและผู้สูงอายุ
  • ขึ้นรถแท็กซี่ (ในบางเวลา)
  • ให้ทิปกับพนักงานบริการต่างๆ
  • ร้านโชห่วยหรือร้านขายของชำขนาดเล็กตามเขตชุมชน

และทั้งหมดทั้งมวลก็คือชีวิตประจำวันที่เราจะต้องพบเจอเมื่อเราอยู่ในสังคมไร้เงินสด ซึ่งผมเองมีโอกาสไปเรียนต่อที่ต่างประเทศก็ได้ใช้ชีวิตแบบนั้นมาสักพัก ความรู้สึกอย่างแรกที่แว๊บเข้ามาในหัวเลยคือ เอ้อ มันสบายเนอะ รู้สึกเงินอยู่ใกล้เรามากขึ้น จะออกไปวิ่งก็ไม่ต้องพกกระเป๋าตังค์ไป

แต่ในอีกแง่นึงผมก็รู้สึกว่าความสะดวกก็อาจทำให้เงินหมดไปได้ไวเช่นกัน อันนี้ต้องระวังใจของตัวเองให้ดีๆ อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างขึ้นอยู่กับลักษณะพฤติกรรมของแต่ละคนนะครับ

Facebook Comments
SHARE
Bearye
นักรัฐศาสตร์ผู้สนใจเศรษฐศาสตร์มหภาค เศรษฐกิจสังคมนิยม การลงทุนแบบมีธรรมมาภิบาล เห็นด้วยกับคำพูดที่ว่า "เงินเป็นลูกน้องที่ซื่อสัตย์ แต่เป็นเจ้านายที่เลวร้าย"