หากมีคนไปบอกคนในยุคพ่อแม่ของเราว่า ในอนาคต เราไม่จำเป็นต้องพกกระเป๋าสตางค์ไปไหนต่อไหนให้วุ่นวาย เพราะเงินของเราจะลอยอยู่บนอากาศ ตามเราไปทุกที่ คนๆ นั้นคงถูกหาว่าบ้าหรือสติไม่ดีเป็นแน่
แต่ในยุคปัจจุบันที่มนุษย์สามารถสร้างทุกสิ่งได้ และมีคนที่สามารถทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้สามารถเป็นไปได้
โดยเฉพาะถ้าหากว่าคนๆ นั้น มีชื่อว่า Elon Musk ผู้ก่อตั้ง Paypal เจ้าของฉายา Iron Man ในชีวิตจริงคนนี้นั่นเอง…
เด็กเนิร์ดผู้หลงไหลนวัตกรรม
เราคงเคยได้ยินชื่อของ Elon Musk ในหลายฐานะ ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุน นักประดิษฐ์ นักฟิสิกส์ มหาเศรษฐีผู้เป็นต้นแบบของ Iron Man แต่แน่ใจได้เลยว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับเขาตั้งแต่ต้น ก่อนหน้านั้น Musk เป็นเพียงเด็กเนิร์ดผู้คลั่งไคล้เทคโนโลยีเท่านั้น พ่อผู้เป็นวิศวกรของเขานั้นได้ปลูกฝังให้ Musk หลงไหลในความซับซ้อนของเทคโนโลยีตั้งแต่เด็กๆ เขาเป็นเจ้าของคอมพิวเตอร์เครื่องแรกตอนอายุ 10 ขวบ และเมื่ออายุ 12 เขาก็สร้างวิดีโอเกมอวกาศที่มีชื่อว่า Blastar เอาไปขายได้แล้ว
เขาได้รับปริญญาตรีสองใบคือด้านเศรษฐศาสตร์และฟิสิกส์ จากนั้นก็ศึกษาระดับปริญญาโทในสาขา High Energy Physics และขณะที่กำลังจะเริ่มต้นศึกษาปริญญาเอก ในปี 1995 โดยมีอายุเพียง 24 ปีนั้นเอง Musk ก็มองเห็นทางในอาชีพนักธุรกิจ แต่ต้องไม่ใช่ธุรกิจทั่วไป เพราะทั่วโลกกำลังให้ความสนใจกับสิ่งที่เรียกว่า อินเตอร์เนต เขาจึงลาออกหลังจากที่เรียนไปได้สองวัน และเปิดบริษัทแรกที่มีชื่อว่า Zip2 Corporation โดยทำหน้าที่เป็นเหมือนใบปลิวออนไลน์ นับเป็นแหล่งจัดหาข้อมูลออนไลน์ยอดฮิตในขณะนั้น
เขาใช้เวลา 4 ปี อุทิศแรงกายทั้งหมดที่มีให้กับ Zip2 จนสามารถขายหุ้นส่วนใหญ่ของ zip2 ให้นักลงทุนในปี 1999 เป็นเงินจำนวนมหาศาล ซึ่งทำให้เขากลายเป็นเศรษฐีร้อยล้านขณะที่มีอายุแค่ 28 ปีเท่านั้น
ทำเวปโป๊เพื่อหาเงินหรือ?
จากนั้น Musk จึงเริ่มบริษัทที่สองในชื่อว่า X.com ซึ่งให้บริการธนาคารออนไลน์ โดยเขาเป็นผู้ออกแบบระบบความปลอดภัยเองทั้งหมด โดยการสร้างวิธีการรักษาความปลอดภัยในการ โอนเงินผ่านที่อยู่อีเมลล์ของผู้รับ เป็นผลความรู้สองสาขาของเขาที่เอามาผนวกกัน (เทคโนโลยีจากฟิสิกส์และการเงินจากเศรษฐศาสตร์)
Paypal เริ่มต้นที่บริษัท Confinity สร้างบริการโอนเงินออนไลน์คล้ายๆ กับ X.com บริษัทดังกล่าวสร้างขึ้นจากกลุ่มเพื่อนที่ Standford สี่คนด้วยกันก็คือ Luke Nosek, Max Levchin, Peter Theil และ Ken Howery โดยเดิมตั้งใจให้เป็นเพียงบริการโอนเงินระหว่างเครื่อง Palm PDA ที่นิยมกันในสมัยนั้น
แต่เมื่อ Nokia สามารถโอนเงินเกือบ 3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ได้สำเร็จ ความคาดหวังที่มีต่อ Paypal ก็มีสูงขึ้นเรื่อยๆ Musk จึงไม่รอช้า ผนวกบริษัท X.com ของตัวเองเขากับ Confinity ทันที โดยทิ้งธนาคารออนไลน์แบบเดิมของบริษัทและมุ่งความสนใจกับการเป็นผู้ให้บริการการจ่ายโอนเงินทั่วโลก และตั้งชื่อบริการใหม่ที่เอาข้อดีของทั้งสองฝ่ายมารวมกันว่า X.com (โดยสินค้าหลักคือ Paypal) เพราะอยากให้จำง่ายและสามารถใช้ได้นาน
แต่ผลปรากฏจากการสำรวจความเห็นก็คือ ผู้คนไม่แน่ใจว่าเวปนี้กำลังให้บริการอะไรแน่ และหลายๆ คนก็นึกไปถึงเว็ปโป๊มากกว่าการเงิน ในปี 2000 Musk และทีมจึงเลือกชื่อ Paypal มาเป็นชื่อสินค้าและความสำเร็จของพวกเขาก็เริ่มจากจุดนั้น
จุดเริ่มต้นความสำเร็จ
หลังจากมีพันธมิตรที่แข็งแกร่งอย่าง eBay ซึ่ง Musk และทีมงานได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของระบบประมูล ที่ได้ทำให้ผู้ประมูลขายประทับใจอย่างมาก ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นรายย่อยหรือธุรกิจขนาดเล็กที่ไม่สามารถรับบัตรเครดิตได้ เพราะธุรกิจของพวกเขาเล็กเกินกว่าจะยื่นขอบัตรเครดิตแบบ Merchant ได้
ส่วนผู้ซื้อก็ชอบที่พวกเขาสามารถใช้บัญชีใหม่จากเวปนี้จ่ายเงินได้เลยโดยไม่ต้องให้เลขบัตรเครดิตกับผู้ขายที่พวกเขาไม่รู้จัก นอกจากนี้ Paypal ยังได้สร้างแรงจูงใจให้กับผู้ใช้ใหม่ ด้วยการฝากเงิน 10 เหรียญสหรัฐฯ ให้ทุกบัญชีที่สมัครใหม่ ซึ่งทำให้ธุรกิจในตอนแรกของพวกเขาเติบโตอย่างรวดเร็ว
ต่อยอดและพัฒนา
กลยุทธ์หลักของ Paypal เคยเป็นการเก็บดอกเบี้ยจากทุนที่ค้างอยู่ในบัญชี แต่ผู้ใช้ส่วนใหญ่มักจะถอดเงินทันทีที่ได้รับเงิน นอกจากนี้ ผู้ส่งยังจ่ายด้วยบัตรเครดิต ซึ่งทำให้ต้องเสียกำไรราวๆ 2% ต่อการทำธุรกรรมหนึ่งครั้ง เพื่อแก้ปัญหานี้ให้ได้ Paypal จึงเปลี่ยนมาสร้างระบบที่ทำให้ได้ลูกค้าระดับ Business มากขึ้นเพื่อลดการพึ่งพารายได้จากดอกเบี้ย และยังทำให้พวกเขาได้รับค่าธรรมเนียมมากขึ้นอีกด้วย
สร้างแรงจูงใจให้ผู้ประกอบการสร้างบัญชีกับ Paypal ด้วยการออกแบบระบบป้องกันบัญชีผู้ขาย แลกกับการที่เหล่าผู้ขายต้องยอมรับนโยบายชดเชยเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้มากขึ้น เช่น ผู้ขายต้องใส่หลักฐานการขนย้ายสินค้าที่ติดตามได้หรือต้องออกใบเสร็จที่มีการลงนามให้กับสินค้าราคาสูง
เตรียมพร้อมเพื่อก้าวกระโดด
หลังจากปรับแต่งรูปแบบธุรกิจจนเริ่มมีอิทธิพลมากขึ้นเรื่อยๆ ใน eBay พวกเขาก็เริ่มมองหาแหล่งลูกค้าจากที่อื่นบ้าง ซึ่งก็ได้สร้างให้ความแตกต่างและทำให้เขามีลูกค้าเพิ่มจากหลาย Platform ทำให้การที่ลูกค้า eBay ลดลง ไม่กระทบแม้แต่น้อย นอกจากนี้ ยังเพิ่มบริการ Merchant Services เพื่อเน้นลูกค้าระดับ SME ที่ไม่ได้อยู่ใน eBay ให้มากขึ้น และลูกค้ากลุ่มนี้เองที่เป็นรากฐานสำหรับของ Paypal จนถึงปัจจุบัน
กระเป๋าสตางค์ที่อยู่บนออนไลน์
หลักการทำงานของ Paypal ไม่มีอะไรยากเลย พวกเขาแค่สร้างกระเป๋าเงินเสมือนจริงให้กับลูกค้าที่ลงบัญชีให้กับพวกเขาเอาไว้ โดยลูกค้าสามารถเป็นบริการธนาคารออนไลน์เอาไว้เก็บเงินก็ได้ แต่ที่คนส่วนมากมักจะใช้ก็คือการเป็นกระเป๋าสตางค์อิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถชำระค่าสินค้าและบริการจากที่ไหนก็ได้ในโลก
ใช้เป็นช่องทางส่งและรับเงินออนไลน์ ซื้อสินค้าได้อย่าง ปลอดภัย ไม่ต้องเปิดเผยหมายเลขบัตรเครดิตหรือข้อมูลทางการเงิน โดยมีผู้ประกอบการเข้าร่วมมากขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละปี ซึ่งจะยิ่งทำให้ผู้ใช้สะดวกขึ้นไปอีก
นวัตกรรมที่เปลี่ยนนิสัยการใช้เงิน
หลังจากที่เปิดตัวสู่สาธารณะ ความนิยมก็พุ่งสูงขึ้นตลอดมา ทำให้ต้องเพิ่มเติมมาตรการความปลอดภัยอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นเพิ่มบัญชีแบบจ่ายเงินซึ่งเป็นการเพิ่มความระมัดระวังขึ้นอีกชั้นรวมถึงยืนยันตัวตนได้ภายในคราวเดียว หรือการควบรวมกิจการกับธุรกิจอื่นๆ ที่เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้กับ Paypal ทั้งในด้านเทคโนโลยี กฏหมาย และการเงินระหว่างประเทศ รวมไปถึงการร่วมมือกับสถาบันข้ามชาติทั้งรัฐและเอกชนอยู่เสมอ
พวกเขากลายเป็นดาวรุ่งของวงการ ถ้าสมัยนี้ก็คือ Unicorn Start-up ตัวจริง และสามารถสร้างความเชื่อมั่นจน eBay เข้ามาซื้อกิจการเป็นจำนวนเงินถึง 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และเป็นเจ้าของอยู่จนถึงเมื่อปี 2015 ที่ Paypal โตเกินกว่าจะเป็นบริษัทลูก จึงได้แยกตัวออกมาเป็นบริษัทเดี่ยวที่มี CEO ของตัวเอง และยังดำเนินกิจการอย่างก้าวกระโดดจนกระทั่งปัจจุบัน
ในเวลาที่มีแต่คนแข่งขันกันทางด้านเทคโนโลยีบนอินเตอร์เนต อาจจะบอกไม่ได้ว่า Paypal เป็นบริการกระเป๋าสตางค์อิเล็คโทรนิคเจ้าแรก แต่การที่ระบบถูกวางมาอย่างดีจนกระทั่งผู้ประกอบการรายใหญ่ อย่าง Nokia และ eBay ไว้วางใจก็คงบอกได้ว่า Paypal นี่เองที่สร้างเทรนด์การซื้อสินค้าออนไลน์ให้เกิดขึ้น และถือเป็นผู้เปลี่ยนโฉมหน้าของวงการการเงินของโลกในยุคปัจจุบันผู้หนึ่ง
Reference :
https://en.wikipedia.org/wiki/PayPal
https://www.nextwider.com/2017/07/25/elon-musk-biography/
https://www.blognone.com/node/61072
https://www.techworld.com/picture-gallery/business/history-of-paypal-1998-now-3630386/
Photo Credit :
https://www.useoftechnology.com/elon-musk-inventor-entrepreneur-philanthropist-really-cool-guy/