มารู้จักกองทรัสต์ “WHART” กองทรัสต์กลุ่มอุตสาหกรรม (Industrial) ที่ใหญ่ที่สุดในไทย มีมูลค่าทรัพย์สินรวม 47,905.54 ล้านบาท เน้นลงทุนในคลังสินค้า ศูนย์กระจายสินค้า และโรงงานระดับพรีเมี่ยม ในทำเลยุทธศาสตร์ด้านโลจิสติกส์ของประเทศ และมีความหลากหลายของกลุ่มผู้เช่า
อีกทั้งกองทรัสต์ WHART ก็เป็นทางเลือกการลงทุนที่ดี ในช่วงที่ตลาดทุนมีภาวะการลงทุนที่ผันผวน อัตราเงินเฟ้อสูง เหมาะกับการลงทุน “Theme Defensive”โดยที่ผ่านมา กองทรัสต์ WHART ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จำกัด และยังคงสามารถจ่ายปันผลได้อย่างสม่ำเสมอในอัตราที่ไม่น้อยไปกว่าเดิม จึงมีความผันผวนน้อยกว่าการลงทุนในทรัพย์สินประเภทอื่น
ทำไมถึงควรลงทุน “Theme Defensive” เพื่อรับตลาดผันผวน
ปี 2022 เป็นปีที่การลงทุนในตลาดเงินตลาดทุน ผันผวนจากปัจจัยต่างๆ หลายปัจจัย ได้แก่
-
ความเสี่ยงจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ ทำให้ดัชนีราคาหุ้นของประเทศต่างๆ ปรับตัวลดลง สร้างความผันผวนจากการลงทุนในตลาดหุ้น และกองทุนรวมตราสารทุน
-
แนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทย และธนาคารกลางของหลายๆ ประเทศซึ่งส่งผลกระทบต่อการลงทุนกองทุนตราสารหนี้
-
ภาวะเงินเฟ้อในประเทศไทย และในต่างประเทศกดดันทำให้การลงทุนในตราสารที่ ผลตอบแทนต่ำอาจสู้เงินเฟ้อไม่ได้ ทำให้ค่าของเงินในกระเป๋าลดลง
4 จุดเด่นของ “กอง WHART” ทางเลือกการลงทุน Theme Defensive
1.ทรัพย์สินที่กองทรัสต์จะเข้าลงทุนตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์โลจิสติกส์สำคัญของประเทศไทย
2.กอง WHART มีผู้เช่าในอุตสาหกรรมที่แข็งแรง และเติบโต และมีผู้เช่ากระจายตัวจากหลากหลายประเทศ
3.กอง WHART มีสัญญาเช่าเฉลี่ยระยะยาว สร้างความมั่นคงในรายได้ของกองทรัสต์
4.ผลตอบแทนมั่นคงสม่ำเสมอ เนื่องจากกองทรัสต์ WHART ในอดีตมีการจ่ายประโยชน์ตอบแทนอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่อง โดยประมาณการการจ่ายประโยชน์ตอบแทนภายหลังการทำรายการจะเพิ่มขึ้นจาก 0.78 บาทต่อหน่วย เป็น 0.80 บาทต่อหน่วย
“กองรีท WHART” สามารถรับมือกับตลาดผันผวนได้อย่างไร?
กองรีท WHART เป็นทางเลือกการลงทุนใน Theme defensive เพื่อรับมือตลาดผันผวนช่วงนี้จากจุดแข็งในมุมต่างๆ ได้แก่
-
กอง WHART มีประวัตกิารจ่ายผลตอบแทนสม่ำเสมอ ในอัตราปันผลที่ดีลดความเสี่ยงในภาวะที่ตลาดมีความผันผวน
-
อุตสาหกรรมคลังสินค้าและโรงงานเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจำกัดจากสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา
-
คลังสินค้าของ WHART มีผู้เช่าในอุตสาหกรรมที่เติบโต และขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ อุตสาหกรรม E-Commerce, FMCG และผู้ให้บริการทางโลจิสติกส์ (Logistic Provider) มีผู้เช่าชั้นนำอย่าง Lazada, Shopee,Tops, Unilever และ Kerry
-
ทำเลที่ตั้งที่สะดวกต่อการขนส่ง ได้แก่ โซนบางนา-ตราด ซึ่งเชื่อมต่อเข้ากรุงเทพ และไปนิคมอุตสาหกรรมได้สะดวก โซนอยุธยา จุดกระจายสินค้าไปยังภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โซน EEC ฐานการผลิตของผู้ผลิตจำนวนมาก และใกล้ท่าเรือแหลมฉบัง และโซนจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งเป็นแหล่งของอาหารทะเล และเป็นพื้นที่หลักในการกระจายสินค้าไปยังภาคใต้
-
มีการกระจายความเสี่ยงที่ดีเนื่องจากมีความหลากหลายในอุตสาหกรรมของผู้เช่า และทำเลที่ตั้งของโครงการ
เปิดทรัพย์สินที่กองทรัสต์ WHART จะเข้าลงทุนเพิ่มเติมคร้ังที่ 8
“WHART” มีโครงการลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติมในปี 2565 จำนวน 5 โครงการ พื้นที่เช่าอาคารรวม 159,963 ตารางเมตร และมีอัตราเช่าเฉลี่ยรวมมากถึง 92% ได้แก่
1.โครงการ WHA Central Mega Logistic Center Wangnoi 63
2.โครงการ WHA Mega Logistics Center Bangna-Trad km.23 Project 3
3.โครงการ WHA Mega Logistics Center Theparak km.21
4.โครงการ WHA-KPN Mega Logistics Center Bangna-Trad km.23 Project 2
5.โครงการ WHA Signode Factory
โดยผู้เช่าหลักของทรัพย์สินเหล่านี้ล้วนแต่เป็นผู้เช่าชั้นนำและอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มั่นคงและเติบโต ซึ่งได้แก่ บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัท เซ็นทรัล เจดี คอมเมิร์ซ จำกัด บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) : บริษัท ชาร์มมิ่งเวิลด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด บริษัท ดีเคเอสเอช (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท ซิกโนด (ประเทศไทย) จำกัด
จุดเด่นของทรัพย์สินที่ลงทุนในคร้ังนี้ เพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนในอนาคตมีอะไรบ้าง?
ทรัพย์สินที่กองทรัสต์จะเข้าลงทุนเพิ่มเติมครั้งที่ 8 ตั้งอยู่ใน 3 ทำเลยุทธศาสตร์ด้านโลจิสติกที่สำคัญของประเทศไทย ได้แก่
1. ทำเล “บางนา – ตราด”
โครงการ WHA Mega Logistics Bangna Km.23 Project 3 และ WHA-KPN Mega Logistics Center Bangna-Trad km.23 Project 2 และ WHA Mega Logistics Center Theparak km.21 ตั้งอยู่บนทำเลยุทธศาสตร์ “บางนา – ตราด” ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางการขนส่งของประเทศไทยอยู่ใกล้กรุงเทพ สามารถเชื่อมต่อทั้งสนามบินสุวรรณภูมิ ท่าเรือกรุงเทพ ถนนสายหลัก ไปยังพื้นที่ต่างๆ ในประเทศได้สะดวก
2. พื้นที่ อำเภอวังน้อย จ. อยุธยา
โครงการ Mega Logistic Center Wangnoi 63 ตั้งอยู่ในทำเลวังน้อยศูนยก์ลางการขนส่งสำคัญของประเทศไทย เป็นแหล่งของศูนย์กระจายสินค้าหลักสู่กรุงเทพมหานคร รวมถึงภาคเหนือ และภาคตะวนัออกเฉียงเหนือของประเทศ สามารถรองรับความตอ้งการจากผู้เช่าในกลุ่มธุรกิจที่หลากหลาย
3. เขตเศรษฐกิจพิเศษ EEC – ชลบุรี
โครงการ WHA Signode Factory สำหรับ บริษัท ซิกโนด ซิสเท็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรม WHA Eastern Seaboard 2 ซึ่งโครงการน้ีอยู่ในพื้นที่ EEC และสามารถเข้าถึงท่าเรือแหลมฉบังได้สะดวก
2. กอง WHART มีผู้เช่าในอุตสาหกรรมที่แข็งแรงและเติบโตตัวอย่างเช่นอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้างโลจิสติก และ E-Commerce
ผู้เช่า 10 อันดับแรก (ภายหลังการลงทุนเพิ่มในปี 2565 )
1. DKSH (Thailand) Limited
2. CRC Thai Watsadu Co.,Ltd.
3. Alibaba Smart Hub (Thailand)
4. Shopee Express (Thailand) Co., Ltd.
5. DSG International (Thailand) Pcl
6. Sino-Pacific Trading (Thailand) Co., Ltd.
7. Kao Commercial (Thailand) Co.,Ltd.
8. TST Sunrise Service, Ltd.
9. Unilever
10. Honda Logistics Asia Co., Ltd.
3. กอง WHART มีสัญญาเช่าระยะยาว สร้างความมั่นคงในรายได้ของกองทรัสต์
เนื่องจากสินทรัพย์ส่วนใหญ่เป็นคลังสินค้า ศูนย์กระจายสินค้า และโรงงานแบบมีสัญญาเช่าระยะยาวทำให้ไม่ต้องหาผู้เช่ารายใหม่ๆ โดยอายุสัญญาเช่าเฉลี่ยของทรัพย์สินที่กองทรัสต์จะลงทุนเพิ่มเติมอยู่ที่ 5.37 ปี ทำให้ภายหลังการเข้าลงทุน ระยะเวลาสัญญาเช่าเฉลี่ยของกองจะยิ่งยาวขึ้นอีก จากเดิมที่มีระยะเวลาเช่าเฉลี่ยที่ยาวอยู่แล้ว
4. ประมาณการผลประโยชน์ตอบแทน และเงินลดทุนต่อหน่วยเพิ่ม สูงขึ้นภายหลังทำรายการ (Total Distributions Per Unit)
กองทรัสต์ WHART ได้ประมาณการจ่ายประโยชน์ตอบแทนต่อหน่วยแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ภายหลังการลงทุนในทรัพย์สินหลักเพิ่มเติมครั้งที่ 8 เท่ากับ 0.80 บาทต่อหน่วย สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 31 ธ.ค. 2566 เพิ่มขึ้นจากประมาณการจ่ายประโยชน์ตอบแทนจากทรัพย์สินเดิมของกองทรัสต์ WHART ก่อนการเพิ่มทุนสำหรับรอบระยะเวลาบัญชีเดียวกัน ซึ่งเท่ากับ 0.78 บาทต่อหน่วย
การเพิ่มทุนครั้งนี้จะสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวให้กับผู้ถือหน่วยทรัสต์อย่างมีเสถียรภาพ เนื่องจากสัญญาเช่าส่วนใหญ่เป็นสัญญาระยะยาว อีกทั้ง profile ของผู้เช่าพื้นที่ของกองทรัสต์เป็นผู้เช่าระดับชั้นนำอยู่ในกลุ่มธุรกิจที่เติบโต และเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมของผู้เช่าปัจจุบันของกองทรัสต์แล้ว จะทำให้กองทรัสต์มีผู้เช่าที่มาจากหลากหลายทางธุรกิจมากขึ้น ซึ่งเป็นการลดความเสี่ยงที่เกิดจากการกระจุกตัวของอุตสาหกรรมใดอุตสาหกรรมหนึ่งได้เป็นอย่างดี
ช่วงระยะเวลาการเสนอขาย และช่องทางการจองซื้อ
ผู้ที่สนใจบริษัทได้กำหนดช่วงระยะเวลาการเสนอขาย และช่องทางการจองซื้อ ได้แก่
-
ผู้ถือหน่วยเดิมที่มีสิทธิ : สามารถจองซื้อได้ระหว่างวันที่ 7-11 พฤศจิกายน 2565
-
ประชาชนทั่วไปซึ่งเป็นบุคคลตามดุลพินิจของผู้จัดจำหน่ายหน่วยทรัสต์ : สามารถจองซื้อได้ระหว่างวันที่ 15-18 พฤศจิกายน 2565
โดยผู้ถือหน่วยเดิมที่มีสิทธิจะจองซื้อที่ราคาเสนอขายสูงสุดที่ 10 บาทต่อหน่วย ซึ่งจะมีการคืนส่วนต่างหากราคาเสนอขายสุดท้ายต่ำกว่า
ในส่วนของประชาชนทั่วไปซึ่งเป็นบุคคลตามดุลพินิจของผู้จัดจำหน่ายหน่วยทรัสต์จะจองซื้อที่ราคาเสนอขายสุดท้าย โดยราคาเสนอขายสุดท้ายกำหนดโดยกระบวนการ Book Building
สนใจจองซื้อหน่วยทรัสต์ เพิ่มทุนครั้งที่ 8 สามารถจองซื้อได้ ระหว่างวันที่ 12 ต.ค. 2565 นี้ ช่องทางการจองซื้อ K-My Invest https://www.kasikornbank.com/kmyinvest และสาขาของธนาคารกสิกรไทย
ผู้ลงทุนสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ธนาคารกสิกรไทย จำกัด
(มหาชน) หรือ โทร. 0 2888 8888 ต่อ 819 หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.sec.or.th หรือ www.whareit.com
คำเตือน: ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
Facebook Comments