อาหารยอดนิยมในใจของผู้บริโภคทุกเพศ ทุกวัย เชื่อว่าหนึ่งในนั้นต้องมีอาหารตะวันตก ของหวานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเบเกอรี่ ไอศกรีม รวมถึงขนมปังกรอบสอดไส้รสชาติต่าง ๆ โดยส่วนประกอบอาหารอย่างเนย และชีส นับว่าเป็นส่วนผสมที่สำคัญในการประกอบอาหารเหล่านั้น
เมื่อพูดถึงในมุมของการลงทุนในผลิตภัณฑ์อาหาร จะเห็นได้ว่าบริษัทที่มีการคิดค้นสูตรอาหารหรือขนมใหม่ ๆ ออกมาสะท้อนให้เห็นว่า บริษัทนั้นไม่เคยหยุดนิ่งในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ป้อนสู่ตลาด และเป็นอีกหนึ่งการลงทุนที่น่าจับตามองจากการที่เป็นบริษัทชั้นนำด้านอาหาร
บริษัท เคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ KCG เป็นหนึ่งในผู้นำในการผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อการบริโภค ซึ่งผลิตภัณฑ์ของ KCG ครอบคลุมตั้งแต่ กลุ่มผลิตภัณฑ์เนย–ชีส ภายใต้แบรนด์ อลาวรี่ และอิมพีเรียล ที่เป็นส่วนสำคัญในการประกอบอาหารหลากหลายประเภท ผลิตภัณฑ์สำหรับการประกอบอาหารและเบเกอรี่ และผลิตภัณฑ์บิสกิต โดยนอกเหนือจากการผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าภายใต้แบรนด์ของ KCG เอง บริษัทฯ ยังมีการนำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ชั้นนำจากทั่วโลก อาทิ ประเทศออสเตรเลีย ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ ผ่านการใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจมานานกว่า 64 ปี
นอกจากนี้ KCG ยังมีศูนย์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์อาหารของ KCG ภายใต้ชื่อ KCG Excellence Center ซึ่งเป็นหนึ่งในศูนย์นวัตกรรมอาหารที่ทันสมัยที่สุด
แห่งหนึ่งของประเทศไทย ที่มีการค้นคว้า วิจัย เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ผ่านห้องปฏิบัติการต่าง ๆ
อย่างไรก็ตาม หากทำความรู้จัก KCG ในมุมของการดำเนินธุรกิจ ผลิตภัณฑ์ของ KCG สามารถแบ่งเป็น 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์หลัก ดังนี้
1. กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม (Dairy Products)
ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เนย ชีส และผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปมาจากนม เช่นนมพร้อมดื่ม วิปปิ้งครีม ครีมชีสและนมเปรี้ยว
2. กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับการประกอบอาหารและเบเกอรี่ (Food and Bakery Ingredients) และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ
ผลิตภัณฑ์อาหาร
•ผลิตภัณฑ์ส่วนผสมของอาหาร (Food Ingredients) เช่น น้ำมันมะกอก และมายองเนส
•ผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูป
•ผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์และอาหารทะเล (Meat and Seafood)
ผลิตภัณฑ์ประกอบการทำเบเกอรี่
•เช่น แป้งเค้ก ยีสต์ ไส้ขนมปังรสชาติต่าง ๆ น้ำเชื่อม น้ำผึ้ง ผงฟู
ผลิตภัณฑ์น้ำผลไม้เข้มข้น
•เช่น SUNQUICK น้ำรสส้มชนิดเข้มข้น
อุปกรณ์ในการทำเบเกอรี่ และอุปกรณ์ประกอบอาหาร
•เช่น ช้อนตวง, เตาอบไฟฟ้า
3. กลุ่มผลิตภัณฑ์บิสกิต (Biscuits)
•ผลิตภัณฑ์คุกกี้ภายใต้แบรนด์อิมพีเรียล, Cookie Choice, Rosy และ Violet
•ผลิตภัณฑ์แครกเกอร์ อาจมีไส้หรือไม่มีก็ได้
•ผลิตภัณฑ์เวเฟอร์ ไส้ครีมรสชาติต่าง ๆ
โดย KCG มีการจำหน่ายสินค้าให้แก่กลุ่มลูกค้าทั้ง B2C ผ่านช่องทางร้านค้าปลีกสมัยใหม่ เช่น Makro, Lotus’s, Big C และตามซูเปอร์มาร์เก็ต เช่น Tops, Max Value, Foodland และร้านสะดวกซื้อชั้นนำทั่วประเทศ ใน 7-11, Family Mart และร้านค้าทั่วไป นอกจากนั้น ยังมีการจำหน่ายให้กลุ่มผู้ประกอบการ หรือ B2B ผ่านช่องทางผู้ประกอบการผลิตอาหาร หรือบริษัทผู้ผลิตอาหาร เบเกอรี่และเครื่องดื่มชั้นนำ
KCG มีผลิตภัณฑ์ที่ทำรายได้หลักคือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม โดยสำหรับปี 2565 ทำรายได้อยู่ที่ 3,597.6 ล้านบาท รองลงมาเป็นรายได้จากการขายผลิตภัณฑ์สำหรับการประกอบอาหารและเบเกอรี่ และอื่น ๆ ทำรายได้อยู่ที่ 1,734.0 ล้านบาท และรายได้จากการขายบิสกิต 825.3 ล้านบาท
ล่าสุด KCG มีแผนที่จะออกและเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 155 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นไม่เกินร้อยละ 28.4 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลัง IPO เพื่อใช้ขยายกำลังการผลิต ก่อสร้างและพัฒนาศูนย์กระจายสินค้าและคลังสินค้า ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ รวมถึงชำระคืนเงินกู้ยืม
นับว่า KCG เป็นหุ้นอาหารที่น่าจับตามองสำหรับนักลงทุนที่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการเติบโตไปพร้อม ๆ กับ KCG หนึ่งในหุ้นผลิตภัณฑ์อาหารที่มีคุณภาพ และเชื่อว่าจะมีโอกาสเติบโตจากการขยายกำลังการผลิตรองรับกับความต้องการของผู้บริโภคที่ขยายตัว อันเป็นเป้าหมายสำคัญของ KCG ในอนาคต…
Reference
–หนังสือชี้ชวนหรือไฟลิ่ง จากสำนักงาน ก.ล.ต.
-https://stock2morrow.com/article/5389
-https://www.kcgcorporation.com/th/home
Facebook Comments