“ประกันชีวิต” เลือกยังไง? ให้คุ้ม! ทั้งประหยัดภาษีและดูแลชีวิต “ฉบับมนุษย์เงินเดือน”

อีกไม่กี่วันก็จะสิ้นปีอีกแล้ว เรียกได้ว่าเป็นช่วงโค้งสุดท้าย สำหรับหลายคน ที่กำลังมองหาสินค้าทางการเงิน เพื่อนำไปใช้สิทธิ์ “ลดหย่อนภาษี” ในปี 2563 นี้

“การซื้อประกัน” ก็เป็นทางเลือกแรกๆ ที่หลายคนนึกถึง แต่ในอีกแง่มุมหนึ่ง คุณรู้ไหมว่า? ค่าเบี้ยประกันที่เราจ่าย หากเลือกให้เหมาะสมกับเป้าหมายที่ต้องการ “ประกันชีวิต” จะเป็นเครื่องมือ ที่สามารถให้อะไรได้มากกว่าแค่ “ซื้อเพื่อลดหย่อนภาษี” เพียงอย่างเดียว!

สำหรับใครที่ยังไม่รู้จะวางแผนยังไง? วันนี้เรามีเทคนิคในการเลือกประกันให้เหมาะสม ตรงเป้าหมาย และนำไปใช้ลดหย่อนภาษีได้อย่างถูกต้อง จะมีเป็นยังไงไปดูกันเลย!

“ประกันชีวิต” มีกี่ประเภท?

“ประกันชีวิต” เป็นการสร้างหลักประกัน และความมั่นคงให้กับผู้ทำประกันชีวิตและครอบครัว ถ้าแบ่งตามลักษณะความคุ้มครองหรือผลประโยชน์ ประกันชีวิตแบบทั่วไป สามารถแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ดังนี้

พอเรารู้แล้วว่า “ประกันชีวิต” แต่ละแบบมีวิธีใช้งานที่แตกต่างกันไปแล้ว ก็มาดูกันต่อว่า แล้วประกันแต่ละแบบเหมาะกันใคร? ใช่ประกัน แบบที่เรากำลังมองหาหรือไม่?

“ประกันชีวิต” แบบไหน เหมาะกับใคร?

การเลือกทำประกันชีวิต เราต้องเลือกให้ตรงกับ “เป้าหมาย” ของตัวเองให้มากที่สุด และประกันชีวิตรูปแบบนั้น เหมาะกับเราหรือไม่? ลองประเมินตัวเองดูง่ายๆ ตามวิธีการด้านล่าง เผื่อจะช่วยตัดสินใจได้ง่าย และรวดเร็วขึ้น…

 “ประกันชีวิต” แบบไหน ใช้ลดหย่อนภาษีได้บ้าง?

พอเราเลือกแบบประกันที่ “ตรงกับความต้องการได้แล้ว” ค่อยมาดูว่า แบบประกันประเภทไหน? ที่เราสามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้บ้าง? เพื่อที่คุณจะได้ทั้งแบบประกันที่ “ตรงความต้องการ แถมสามารถนำไปใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษี” ได้อย่างถูกต้องอีกด้วย ดังนี้…

เมื่อทำตามขั้นตอนด้านบน! เราก็จะได้ แบบประกันที่ตรงความต้องการจริงๆ แถมยังสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย ถึงจะเรียกได้ว่า…ประกันที่คุ้ม! ทั้งประหยัดภาษีและดูแลชีวิต คุ้ม 2 เด้งเลยทีเดียวเชียว!

สำหรับใครที่ยังเลือกไม่ได้!
ขอแนะนำ 2 แบบประกัน ที่โดดเด่นจาก “ทีเอ็มบี และธนชาต” ที่ได้คัดสรรมาแล้วว่า “เด่นทั้งความคุ้มครองแถมนำไปใช้ลดหย่อนภาษีได้แน่นอน” จัดมาให้เลือกตามความต้องการ 2 แบบ ดังนี้!

1. “Happy Saver 11/6 (Par)” ประกันชีวิตที่ “ช่วยคนทำงานให้มีความสุขกับการเก็บเงินก้อน” เน้นเก็บเงินระยะสั้น ช่วยลดหย่อนภาษี ได้เงินคืนทุกปี ที่สำคัญมีโอกาสได้รับเงินปันผลเพิ่มเมื่อครบสัญญา

2. “Happy Life Protect ” ประกันชีวิตสำหรับ “คนที่ต้องการมอบความคุ้มครองเพื่อคนที่รัก” ถือเป็นอีกหนึ่งแบบประกันที่มอบความคุ้มค่ามากๆ เพราะซื้อเพียง 1 กรมธรรม์ แต่ได้ทั้งความคุ้มครองชีวิต มีเงินใช้สุขใจหลังเกษียณ และได้สิทธิ์ลดหย่อนภาษี 

นอกจากนี้ยังมีความคุ้มครอง 5 โรคร้ายแรงอันดับต้นๆ อย่างโรคมะเร็ง กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันจากการขาดเหลือ โรคหลอดเลือดสมองแตกหรืออุดตัน ไตวายเรื้อรัง โรคมะเร็งระยะลุกลาม และภาวะโคม่า 

ผู้ที่สนใจผลิตภัณฑ์ทั้ง 2 ตัว สามารถติดต่อได้ที่สาขาของธนชาต และสาขาร่วม ทีเอ็มบี และธนชาต (Co-location)

หมายเหตุ :
– รับประกันชีวิตโดยบริษัท พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) เป็นเพียงนายหน้าประกันชีวิต และรับผิดชอบในฐานะนายหน้าเท่านั้น 

– ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจในรายละเอียดความคุ้มครอง และเงื่อนไขก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง

ศึกษารายละเอียดของผลิตภัณฑ์เพิ่มเติม :

Happy Saver 11/6 :
tmbbank.com/happy-saver11-6/fb/kolsi1220

Happy Life Protect :
tmbbank.com/happy-life-protect/fb/kolsi1220