3 วิธี ถีบตัว เองออกจาก “Comfort Zone” ไปสู่โลก “การลงทุนเพื่อความมั่งคั่ง”

Comfort Zone” คือการติดอยู่กับความสบาย ความเคยชิน ของเราไปเรื่อยๆ จนทำให้เวลาหมดไปในแต่ละปี เราก็ยังไม่ได้เริ่มทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันซักที! เรื่องของ“การออม” และ “การลงทุน” ก็เช่นกัน
ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่อยากเริ่มต้นลงทุนอย่างจริงจัง! แต่ก็ยังทำไม่ได้ซักที
ลองมาดู 3 วิธี ถีบตัว เองออกจาก “Comfort Zone” ไปสู่โลก “การลงทุนเพื่อความมั่งคั่ง”

1. เช็กสุขภาพการเงินตัวเอง ก่อนเริ่มลงทุน!

ก่อนอื่นต้องเช็ก “สุขภาพการเงิน” ของเราก่อนว่าเป็นอย่างไร? แต่ละเดือนหลังหักค่าใช้จ่ายแล้วเรามีเงินเหลือบ้างไหม? จะเป็น 10% หรือ 5% ของเงินเดือนก็ยังดี
แต่ถ้ายังใช้จ่ายแบบเดือนชนเดือนก็คงต้องเริ่มจากการวางแผนการเงินของตัวเองซะใหม่ ตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น เคลียร์หนี้เก่า และหาช่องทางเพิ่มรายได้ เพื่อให้มีเงินเหลือเพียงพอสำหรับการลงทุนต่อไป

2. หาเป้าหมายการลงทุนที่ชัดเจน เพื่ออะไร? สำคัญแค่ไหน?

สิ่งที่สำคัญมากที่สุดในการจะหลุดออกจาก “Comfort Zone” ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตามคือ เป้าหมายต้องชัดเจน! ลองนึกถึงเวลาเราอยากได้อะไรซักอย่างมากๆ ไม่ว่าจะเป็น กระเป๋า รองเท้า หรือทริปเที่ยวต่างประเทศ เราจะประหยัดและทำทุกอย่างเพื่อให้มีเงินไปซื้อหรือทำสิ่งเหล่านั้น เรื่องของการลงทุนก็เช่นกัน
ถ้าเราเห็นว่า “เป้าหมายในการลงทุน” นั้นมันสำคัญสำหรับเรามากพอ การประสบความสำเร็จในการลงทุนก็ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป
ยกตัวอย่างเช่น เป้าหมายลงทุนเพื่อซื้อบ้านหลังแรกให้ครอบครัว, เป้าหมายลงทุนเพื่อสร้างล้านแรกให้ตัวเอง, เป้าหมายลงทุนเพื่อเป็นทุนการศึกษาให้ลูก ฯลฯ

3. เลือกเครื่องมือ ที่เหมาะสมกับตัวเอง แล้วเริ่มลุย!

มีเงินสำรองแล้ว มีเป้าหมายที่ชัดเจนแล้ว ทีนี้ก็มาเลือกเครื่องมือ ที่เหมาะสมกับตัวเองและเป้าหมายนั้น เครื่องมือการลงทุน หรือประเภทการลงทุนในปัจจุบันมีให้เลือกหลากหลาย แต่ละประเภทก็มีผลตอบแทนและความเสี่ยงที่แตกต่างกันออกไป จะรู้ว่าเครื่องมือไหนเหมาะสมกับเรา ก็ต้องเข้าใจตัวเองก่อน ว่าตัวเองรับความเสี่ยงได้แค่ไหน ซึ่งการประเมินความเสี่ยงที่ยอมรับได้
สามารถทำแบบทดสอบที่นี่ : www.set.or.th/education/th/online_classroom/risk.html
ตัวอย่างเครื่องมือในการลงทุนเรียงจากเสี่ยงต่ำ ไปจนเสี่ยงสูงดังนี้!
– เงินฝากธนาคาร
เหมาะกับ – คนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำมาก เน้นออมเงินไว้ใช้จ่าย ไม่เน้นผลตอบแทน
– ตราสารหนี้
เหมาะกับ – คนที่ยังไม่อยากเสี่ยงมาก แต่คาดหวังผลตอบแทนมากกว่าเงินฝากธนาคาร
– กองทุนรวม
เหมาะกับ – คนที่อยากเริ่มต้นลงทุนในหุ้น แต่ยังไม่อยากเสี่ยงเลือกหุ้นเอง กองทุนรวมก็จะมีผู้จัดการกองทุนดูแลให้ คาดหวังผลตอบแทนได้ดีขึ้น
– หุ้น
เหมาะกับ – คนที่รับความเสี่ยงได้สูง เข้าใจหลักการในการดูธุรกิจ และมีเวลาศึกษาหาข้อมูลการลงทุน ก็จะคาดหวังผลตอบแทนได้สูง แต่ก็มีโอกาสขาดทุนได้สูงเช่นกัน
– อนุพันธ์
เหมาะกับ – นักเก็งกำไร ที่รับความเสี่ยงได้สูงมาก มีเวลาดูอย่างใกล้ชิด สามารถคาดหวังผลตอบแทนได้สูง แต่ก็มีโอกาสขาดทุนได้สูงมากเช่นกัน
โดยสรุปก็คือ ถ้าต้องการผลตอบแทนสูงเพื่อให้ถึงเป้าหมายทางการเงินได้เร็ว ก็ต้องเรียนรู้และเข้าใจเครื่องมือที่ให้ผลตอบแทนสูง เช่นกองทุนรวมหรือหุ้น ซึ่งก็ต้องใช้เวลาใช้ความสามารถมากหน่อย ไม่มีอะไรที่ได้มาง่ายๆ “แต่ถ้าเรามีความพยายามมากพอ ก็คงไม่มีอะไรที่คนเราทำไม่ได้”
Facebook Comments
SHARE
Seal_Thadsapol
ทัศน์พล ทิพย์วีรกุล | Founder : Salary Investor, Content Creator, Financial Planner