ณุศาศิริฯ เปิดตัว “Nasa Tech” แพลตฟอร์ม เพื่อการลงทุนในยุคดิจิทัล

นางศิริญา เทพเจริญ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการตลาด บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) หรือ NUSA เปิดเผยว่า Nusa Tech (ณุศา เทค) กลุ่มธุรกิจใหม่ภายใต้การนำของณุศาศิริฯจัดงาน NUSA OPEN THE NEW WORLD ในรูปแบบ Virtual Conference เพื่อเปิดตัวกลุ่มธุรกิจและโครงการใหม่แห่งอนาคตที่จะมาเสริมกำลังทางธุรกิจพร้อมเข้าสู่โลกดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ด้วยธุรกิจพัฒนาแพลตฟอร์มอัจฉริยะที่จะเชื่อมต่อสร้างโอกาสใหม่ทางธุรกิจ ให้กับผู้ประกอบการในประเทศไทย เพื่อยกระดับธุรกิจในอุตสาหกรรมหลักของไทยสู่ตลาดโลกแบบไร้พรมแดน ด้วยการเปิดตัวโครงการ Thailand Digital Kingdom อาณาจักรเศรษฐกิจใหม่บนโลกดิจิทัล ด้วยกลยุทธ์ 3+6+1
นำร่องด้วยแพลตฟอร์มยักษ์ 3 ด้านเพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านการท่องเที่ยว การแพทย์ และการค้าออนไลน์ และ 6 แพลตฟอร์มที่จะมาเป็นระบบรองรับในรูปแบบ Supply Chain และ อีก 1 การซื้อขายรูปแบบใหม่ของวงการอสังหาริมทรัพย์ ในยุคดิจิทัลกับ Nusa Digital Asset เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงผู้ต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์ได้ทั่วโลกได้โดยไม่มีข้อจำกัด

1.แพลตฟอร์มด้านการค้าออนไลน์ Thailand Showroom

จะเชื่อมต่อและผลักดันให้สินค้าไทยออกสู่ตลาดโลก พร้อมสร้างรายได้และโอกาสให้กับอุตสาหกรรมไทยในทุกระดับด้วยระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัย เป็นเสมือนโชว์รูม ของสินค้าไทยที่ยิ่งใหญ่จากทั่วทุกภูมิภาคของไทย จะมารวมไว้เป็นหนึ่งเดียวเพื่อให้สินค้าของไทยออกสู่ตลาดโลกผ่านโลกดิจิทัลที่ไร้พรมแดน

2.แพลตฟอร์ม P.A.L.P by WMA (world medical alliance)

โดดเด่นด้านการแพทย์และสุขภาพ ที่จะยกระดับวงการการแพทย์ไทยสู่สากลเพื่อเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์และสุขภาพของเอเชีย ที่ใช้เทคโนโลยีเป็นตัวช่วยในการกรองข้อมูลและวิเคราะห์ผลอย่างแม่นยำ พร้อมเชื่อมต่อการบริการทางการแพทย์และสุขภาพแบบไร้ขีดจำกัด สร้างความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้บริการทั่วโลก โดยร่วมมือกับ Thailand Elite card โดยมีเป้าหมายจะดึงนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่ใส่ใจด้านสุขภาพ

3.แพลตฟอร์ม Safe-T Travel

ที่ร่วมมือกับ Depa ที่จะมาสร้างมาตรฐานใหม่และเป็นเครื่องมือหลักของการท่องเที่ยวในประเทศที่จะรวบรวมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทยแบบครบวงจร ที่จะใช้เทคโนโลยีเพื่อออกแบบการท่องเที่ยวส่วนบุคคลและด้วยระบบการให้บริการจากกลุ่มอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแบบไร้รอยต่อเพื่อรองรับความต้องการของนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก เป็นเสมือนประตูสู่ประเทศไทย กลุ่ม Nusa Tech (ณุศา เทค) ยังพัฒนาแพลตฟอร์มอัจฉริยะเพิ่มอีก 6 ด้านที่จะมาเติมเต็มให้ครบวงจรในรูปแบบ Ecosystem และจะมาเป็นอาวุธเสริมในการผนึกกำลังเพื่อพัฒนาและผลักดันระบบ Supply Chain ให้พร้อมรองรับธุรกิจของไทยอย่างมีประสิทธิภาพ โดยประกอบไปด้วย
1. แพลตฟอร์ม Smart factories and warehouses แพลตฟอร์มพัฒนาระบบการจัดเก็บสินค้าระดับอุตสาหกรรมด้วยเทคโนโลยี
2. แพลตฟอร์ม Smart food agriculture ที่จะมาผลักดันการเกษตรอย่างเป็นระบบตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ
3. แพลตฟอร์ม Delivery เพื่อมาใช้ในการพัฒนาการขนส่งที่ครอบคลุมทุกพื้นที่
4. แพลตฟอร์ม Export and Shipping ที่จะใช้เทคโนโลยีมาพัฒนาการส่งออกให้สะดวกและรวดเร็ว
5. แพลตฟอร์ม Nusa Money แพลตฟอร์มที่จะมาเป็นรากฐานและเป็นต้นทุนทางการเงินและความคิดที่จะมาเชื่อมโยงทุกแพลตฟอร์มด้วยกระเป๋าเงินดิจิทัลใบเดียว
6. แพลตฟอร์ม HR new gen strategy platform อาวุธทางปัญญาที่จะมาขับเคลื่อนทุกธุรกิจด้วยการจัดหาขุนพลรุ่นใหม่เพื่อจับคู่สายงานกับความถนัดแบบเป็นระบบ อีกทั้งณุศา เทค ยังได้ร่วมกับภาครัฐและเอกชน พร้อมด้วยนักพัฒนาและผู้เชี่ยวชาญจากหลายภาคส่วน เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจด้วยแพลตฟอร์มมาตราฐานระดับสากลในโครงการ Thailand Digital Kingdom ที่จะมาขับเคลื่อนอุตสาหกรรมหลัก ด้วยการนำเทคโนโลยี AI ที่เป็นนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ที่ทรงประสิทธิภาพ เข้าถึงตลาดโลกและวิเคราะห์เพื่อประมวลผลอย่างแม่นยำ โดย 3 แพลตฟอร์มหลักจะพร้อมใช้ในปี 2564 เพื่อรองรับความต้องการของนักธุรกิจและคู่ค้าทั้งชาวไทยและต่างประเทศ  ส่วนอีก 6 แพลตฟอร์มจะพร้อมใช้ในปี 2564-2565  เพื่อพัฒนาระบบ Ecosystem อย่างเต็มรูปแบบเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและการค้าของไทยอย่างยั่งยืน
นอกจากระบบที่จะมาเป็นแรงผลักดันทางธุรกิจ สร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการมากมาย ทางโครงการยังเปิดตัว Nusa Digital Asset ที่เป็นการเปลี่ยนผ่านการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์รูปแบบเดิมที่มีความยุ่งยากซับซ้อนมาสู่รูปแบบใหม่ในยุคดิจิทัล ด้วยเทคโนโลยี Blockchain ทำให้การซื้อขายสะดวกสบายขึ้น ง่ายขึ้น รวดเร็วขึ้น โปร่งใส ปลอดภัย และสามารถเข้าถึงผู้ต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์ได้ทั่วโลก Nusa Digital Asset ถือเป็นครั้งแรกในการซื้อขายรูปแบบใหม่ที่รวม 3 องค์ประกอบไว้ด้วยกันคือ อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจเสริมสร้างสุขภาพครบวงจร รวมถึงโอกาสการซื้อขายในตลาดทุนดิจิทัลได้ในอนาคต
โดยโครงการแรกคือ Nusa My Ozone ที่เปิดโอกาสให้สามารถซื้อขั้นต่ำเพียง 70,000 บาทกับพื้นที่ 10 ตารางเมตร เป็นโครงการที่ทำเลดีที่สุดในเขาใหญ่ ท่ามกลางอากาศบริสุทธิ์อันดับ 7 ของโลกที่จะพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เป็นศูนย์สุขภาพที่พร้อมสรรพด้วยการบริการด้านสุขภาพครบวงจรควบคู่ไปกับที่พักอาศัยเพื่อพัฒนาคุณภาพการใช้ชีวิต ด้วยการร่วมมือจากโรงพยาบาล Panacee และบริหารโครงการด้วยโรงแรมระดับโลกอย่าง Movenpick โดยตั้งเป้ายอดซื้อในเฟสแรกประมาณ 10% ประมาณ 1,000 ล้าน
“ณุศาเทค” วางเป้าหมายว่าธุรกิจแพลตฟอร์มทั้งหมดจะสร้างเม็ดเงินให้กับประเทศไทยถึงหมื่นล้านเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศต่อปี โดยตั้งเป้า Thailand showroom จะสร้างรายได้ 0.1%ของมูลค่าการส่งออกประมาณ 7,500 ล้านบาท แพลตฟอร์ม PALP อีก 2,500 ล้านบาท แพลตฟอร์ม Save-T Travel
จะสร้างเม็ดเงินให้การท่องเที่ยวของประเทศไทยประมาณ 300 ล้านบาท และอีก 6 แพลตฟอร์มด้าน Supply Chain อีก 1,500 ล้านบาท แต่เมื่อทุกแพลตฟอร์มเชื่อมต่อกันทั้งหมดจะสร้างรายได้ให้กับการท่องเที่ยวของประเทศไทยทั้งประเทศถึง 10% ของมูลค่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและจะช่วยสร้างรายได้สู่ชุมชนเนื่องจากทุกแพลตฟอร์มจะเชื่อมต่อกันเป็นระบบจากต้นน้ำถึงปลายน้ำ  คาดว่าโครงการ Thailand Digital Kingdom จะเป็นแพลตฟอร์มระดับชาติ ที่จะสนับสนุนเศรษฐกิจของประเทศไทยในอนาคต

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.nusa-tech.com/

Facebook Comments
SHARE
Advertorial Team
“คนทำงาน” ที่ชอบลงทุนกับความรู้ เพื่อชีวิตที่ดียิ่งขึ้น